โอลิมปิกคือมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เต็มไปด้วยเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ น่าจดจำ และประทับใจ หากบันทึกลงหน้ากระดาษก็คงกลายเป็นหนังสือความยาวหลายร้อยหน้า อย่างไรก็ตามนอกจากผลการแข่งขัน ชัยชนะ หรือความพ่ายแพ้แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ “โมเมนต์เมนส์แวร์” ที่แทรกซึมอยู่ในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาตินี้ จึงอยากหยิบยกเรื่องราวโมเมนต์เมนส์แวร์ที่น่าจดจำที่สุดมากล่าวถึง เพราะถึงแม้จะเป็นมหกรรมกีฬา ทว่าโอลิมปิกก็ไม่ได้มีแค่เรื่องราวกีฬาเท่านั้น มันคือเรื่องราวแทบทุกมิติของชีวิตมนุษย์ที่ถูกบอกเล่าผ่านเลนส์แห่งกีฬา
กรุงเอเธนส์ อาณาจักรกรีก คือต้นกำเนิดของโอลิมปิกโบราณ (Ancient Olympic Games) ซึ่งเป็นเทศกาลทางศาสนาและกรีฑาซึ่งจัดขึ้นทุกสี่ปี ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งซุสในโอลิมเปีย โดยนครรัฐและราชอาณาจักรกรีกโบราณได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมแข่งขัน ว่ากันว่าช่วงเวลาดังกล่าวคือประมาณ 776 ปีก่อนคริสตกาล
โอลิมปิกโบราณจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรุ่งเรืองที่สุดในศตวรรษที่ 6 และ 5 ก่อนคริสตกาล แต่จากนั้น ค่อย ๆ เสื่อมความสำคัญลง เมื่อชาวโรมันมีอำนาจและอิทธิพลในกรีก แต่หากจะถามว่ามันสิ้นสุดลงเมื่อใด คำตอบคือยังไม่มีการเห็นพ้องต้องกันในทางวิชาการ โดยส่วนใหญ่ระบุว่าคือ ค.ศ. 393 เมื่อจักรพรรดิธีโอโดเซียสที่ 1 ทรงประกาศให้ลัทธิและการปฏิบัติตามหลักเพเกินถูกกำจัดไป
โอลิมปิกห่างหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์กว่า 15 ศตวรรษ ก่อนมันจะกลับมาอีกครั้งในฐานะโอลิมปิกสมัยใหม่ (Modern Olympic Games) ในปี 1896 ซึ่งเมืองที่รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพก็คือกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
ภาพถ่ายในโอลิมปิกฤดูร้อน 1896 หายากราวกับงมเข็มในมหาสมุทร เนื่องจากยุคสมัยดังกล่าวกล้องถ่ายรูปยังไม่ถูกใช้อย่างแพร่หลาย และภาพถ่ายส่วนใหญ่ก็มีคุณภาพต่ำ ทว่าหลังจากที่ใช้เวลาค้นหาสักพักผมก็สะดุดตากับภาพนี้ของทีมฮอกกี้ประเทศกรีซ
เสื้อแขนยาวปก Band Collar, กางเกงขายาว, และรองเท้าหนัง ภาพแบบนี้คงหาดูไม่ได้แล้วในการแข่งขันกีฬาในปัจจุบัน ถึงแม้จะไม่ได้หวือหวาหรือมีรายละเอียดมากนัก แต่ภาพนี้คือหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญที่บ่งบอกว่าครั้งหนึ่งเมนส์แวร์กับกีฬาเคยสนิทชิดเชื้อกัน ก่อนที่กาลเวลาจะค่อยๆ นำพาให้ห่างออกจากกันไปเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลด้านการพัฒนาประสิทธิภาพเพื่อผลลัพธ์แห่งชัยชนะ